ผังการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับการทดลอง
Static
and Default Routing
Device
|
Interface
|
IP Address
|
Subnet Mask
|
Default Gateway
|
R1
|
Fa0/0
|
172.16.3.1
|
255.255.255.0
|
n/a
|
Fa0/1
|
172.16.2.1
|
255.255.255.0
|
n/a
|
|
R2
|
Fa0/0
|
172.16.1.1
|
255.255.255.0
|
n/a
|
Fa0/1
|
172.16.2.2
|
255.255.255.0
|
n/a
|
|
S0/0/1
|
192.168.1.2
|
255.255.255.0
|
n/a
|
|
R3
|
Fa0/0
|
192.168.2.1
|
255.255.255.0
|
n/a
|
S0/0/1
|
192.168..1.1
|
255.255.255.0
|
n/a
|
|
PC1
|
NIC
|
172.16.3.10
|
255.255.255.0
|
172.16.3.1
|
PC2
|
NIC
|
172.16.1.10
|
255.255.255.0
|
172.16.1.1
|
PC3
|
NIC
|
192.168.2.10
|
255.255.255.0
|
192.168.2.1
|
ที่
Router1 แสดงเครือข่าย ที่เราเตอร์รู้จัก
จะมีเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่กับเราเตอร์โดยตรง ซึ่งได้มาจากการกำหนด IP
Address ที่อินเตอร์เฟส
R1#
show ip route
Gateway
of last resort is not set
172.16.0.0/24 is subnetted, 2 subnets
C 172.16.2.0 is directly connected, Ethernet1/0
C
172.16.3.0 is directly connected, FastEthernet0/0
|
จากนั้นต้องทำการเพิ่มเครือข่ายอื่นๆ
ที่เราเตอร์ยังไม่มีข้อมูล ดังนี้
172.16.1.0/24 ที่เป็นเครือข่าย LAN
ของ R2
192.168.1.0/24 ที่เป็น Serial ที่เชื่อมต่อ R2 และ R3
192.168.2.0/24 ที่เป็นเครือข่าย LAN ของ R3
การกำหนดเส้นทางให้เราเตอร์แบบ Static โดยทั่วไป ใช้สำหรับบอกเส้นทางไปยังเครือข่ายภายนอกที่มีทางออกเส้นทางเดียว การเช็ต Static route ทำได้โดยใช้คำสั่ง ip route โดยมีรูปแบบคำสั่งดังนี้
การกำหนดเส้นทางให้เราเตอร์แบบ Static โดยทั่วไป ใช้สำหรับบอกเส้นทางไปยังเครือข่ายภายนอกที่มีทางออกเส้นทางเดียว การเช็ต Static route ทำได้โดยใช้คำสั่ง ip route โดยมีรูปแบบคำสั่งดังนี้
Router(config)# ip route network-address subnet-mask { ip-address | exit-interface }
อธิบายพารามิเตอร์ต่างๆ ดังนี้
· network-address คือ เครือข่ายปลายทาง ที่ต้องการเพิ่มเส้นทางให้กับเราเตอร์
· subnet-mask คือ subnet mask ของ เครือข่ายปลายทางที่เพิ่มให้กับเราเตอร์ ซึ่ง subnet mask สามารถกำหนดในรูปแบบ กลุ่มเครือข่ายได้ (summarize)
· ip-address คือ ip address ของเราเตอร์ตัวถัดไปที่ติดกับเราเตอร์ที่ต้องการกำหนดเส้นทางออกไป
· exit-interface คือ interface ที่เป็นเส้นทางออกให้ packet ส่งออกไป
การกำหนดเครือข่าย
Static
Route โดยใช้ IP Address เป็นพารามิเตอร์บอกเครือข่ายถัดไป(Next
Hop)
ทำการเพิ่มเครือข่ายให้
R1
ด้วยคำสั่งดังนี้
R1(config)#
ip route 172.16.1.0 255.255.255.0 172.16.2.2
R1(config)#
ip route 192.168.1.0 255.255.255.0 172.16.2.2
R1(config)#
ip route 192.168.2.0 255.255.255.0 172.16.2.2
|
หลังจากเพิ่มเครือข่ายแล้ว สามารถตรวจสอบได้โดย
R1# show ip route
Gateway
of last resort is not set
172.16.0.0/24
is subnetted, 3 subnets
S 172.16.1.0 [1/0] via 172.16.2.2
C 172.16.2.0 is
directly connected, Ethernet1/0
C 172.16.3.0 is
directly connected, FastEthernet0/0
S 192.168.1.0/24 [1/0] via 172.16.2.2
S
192.168.2.0/24 [1/0] via 172.16.2.2
|
การกำหนดเครือข่าย
Static
Route โดยใช้ Exit Interface เป็นพารามิเตอร์
การกำหนดโดยใช้
exit
interface สามารถทำได้โดยใส่ ชื่อ interface ของเราเตอร์ที่จะส่งเพกเกจออกไปยังเครือข่ายอื่น
แทน ip address (next-hop) ตัวอย่างการกำหนด Static route โดยใช้ exit
interface ให้กับ R2
R2(config)#
ip route 172.16.3.0 255.25.255.0 fa0/1
R2(config)#
ip route 192.168.2.0 255.255.255.0
se0/0/1
|
ตรวจสอบเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น
Router#sh
ip route
Gateway
of last resort is not set
172.16.0.0/24 is subnetted, 3 subnets
C 172.16.1.0 is directly connected,
FastEthernet0/0
C 172.16.2.0 is directly connected,
Ethernet1/0
S 172.16.3.0 is
directly connected, FastEthernet1/0
C 192.168.1.0/24 is directly connected,
Serial0/0
S 192.168.2.0/24
is directly connected, Serial0/0/1
|
Default
Static Routes
การกำหนด
default
route เป็น static route ชนิดหนึ่ง
ซึ่งใช้สำหรับบอกเครือข่ายทั้งหมดที่ไม่ตรงกับที่ระบุเอาไว้ หรือหากมีเครือข่ายใดๆ
ที่ไม่ตรงกับเครือข่ายที่มีการกำหนดไว้ ยังไงก็จะตรงกับ default route
ตัวอย่างคำสั่ง
default
static route
Router(config)# ip
route 0.0.0.0 0.0.0.0
{ ip-address | exit-interface }
การกำหนด default route ให้กับ R3
R3(config)# ip
route 0.0.0.0 0.0.0.0
s0/0/1
R3#
show ip route
Gateway
of last resort is 0.0.0.0 to network 0.0.0.0
C 192.168.1.0/24 is directly connected,
Serial0/0
C 192.168.2.0/24 is directly connected,
FastEthernet0/0
S* 0.0.0.0/0
is directly connected, Serial0/0/1
|
Summary
Router
ในการกำหนด
Static
Route ให้กับ R3 สามารถ กำหนดแบบ summary
route ได้ เนื่องจาก R3 ต้องมีการกำหนดเครือข่ายเพิ่มทั้งหมด
3 เครือข่ายคือ 172.16.1.0/24, 172.16.2.0/24, 172.16.3.0/24 ซึ่งรายละเอียดของการคำนวน summary route จะกล่าวถึงในบทถัดไป
ในที่นี้จะบอกถึงที่มาของ subnet จากการ summery ทั้ง 3 เครือข่าย ที่เป็นที่มาของ subnet ดังนี้
10101100.00010000.00000001.00000000 ; (มาจาก 172.16.1.0)
10101100.00010000.00000010.00000000 ;
(มาจาก 172.16.2.0)
10101100.00010000.00000011.00000000 ;
(มาจาก 172.16.3.0)
จะเห็นว่าเครือข่ายทั้ง 3 ที่จะกำหนดให้กับ R3
มีหมายเลข bit ที่เหมือนกัน 22 bits ถ้าคิดเป็นหมายเลข subnet
mask จะได้เป็น 255.255.252.0 (หรือ 172.16.0.0/22) ดังนั้นหากกำหนด
routing แบบ summery จึงสามารถทำได้เพียงหนึ่งบรรทัด
ดังนี้
R3(config)#
ip route 172.16.0.0
255.255.252.0 serial 0/0/1
RIP
Concepts
RIP
เป็น Dynamic Routing protocol ประเภท Distance
Vector ปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น 2 (RIPv2) มีการพัฒนาจากเวอร์ชั่น
1 (RIPv1)
ซึ่งเราควรทราบเกี่ยวกับความแตกต่างของสองเวอร์ชั่นในเรื่องหลักการทำงานและการกำหนดค่า
ในส่วนแรกจะบอกถึงข้อมูลของ RIPv1 อย่างย่อๆก่อน
รูปแบบของ
RIPv1
Message
RIPv1
เป็น classful และเป็นชนิด distance
vector สำหรับ IPv4 ที่ใช้ค่า hop
count เป็นค่า matric เพื่อใช้สำหรับเลือกเส้นทางเพียงอย่างเดียว
หากจำนวน hop count ที่มีค่ามากกว่า 15
จะไม่สามารถเดินทางไปได้
RIPv1
ส่งข้อมูลโดยแบบ UDP หมายเลขพอร์ตคือ 520
และจะ broadcast ทุกๆ 30 วินาที